เชื่อว่าหลายๆ คนคงเจอปัญหาการดูแล “เสื้อโปโล” ไม่ว่าจะเป็นการ ยืด หด ย้วย เสียทรงหรือมีกลิ่นอับ ปัญหาเหล่านี้เกิดจากการซักส่วนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะซักด้วยมือแล้วก็ตาม ปัญหาดังกล่าวก็ยังเกิดขึ้นอยู่ จะว่าไปแล้ว “เสื้อโปโล” เป็นเสื้อที่ดูแลไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าเรารู้เคล็ดลับเกร็ดวิธีอย่างเข้าใจ ซึ่งการซักทำความสะอาดเสื้อโปโลนั้นมีขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนกว่าการซักผ้าธรรมดา แต่วิธีการซักนั้นไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คุณคิด เพียงคุณทำตามวิธีที่เราจะนำเสนอดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้น
1.ซื้อเสื้อโปโลมาใหม่ ซักเป็นครังแรก
กรณีที่จะซักเป็นครังแรก ควรแยกผ้าสีและผ้าขาวออกจากกันก่อนนำไปซัก เพื่อป้องกันการตกสีของผ้าสีเข้มไปยังเสื้อผ้าสีอ่อน ควรแยกออกจากเสื้อผ้าสีขาว หรือ สีอ่อน เพื่อป้องกันสีของเนื้อผ้าดูไม่เก่า และไม่หมองง่าย
2.ผึ่งเสื้อโปโลที่เปียกชื้นให้แห้ง ก่อนไปซัก
ถ้าเสื้อโปโลเปียกหรือชื้นอยู่ คุณควรนำไปผึ่งให้แห้งก่อนนำไปซัก เพื่อทำลายกลิ่นอับที่เกิดขึ้นจากเหงื่อไคล
3.ตรวจสอบสิ่งสกปรกก่อนซัก
ควรตรวจสอบสิ่งสกปรกที่เกิดจากการเลอะเปื้อนบนเสื้อโปโล เช่น หมากฝรั่ง หมึก ลิปสติก คราบน้ำมันเครื่อง คราบเครื่องดื่ม หรือคราบอาหาร เป็นต้น ด้วยการขจัดคราบเหล่านี้ก่อนเสมอ ทำได้ง่ายเพียงใช้น้ำยาขจัดคราบ จากนั้นให้นำผ้าไปแช่ในผลิตภัณฑ์ซักผ้าทิ้งไว้สักครู่ก่อนนำไปซัก ซึ่งการแช่ก่อนซักจะทำให้เนื้อผ้านั้นนุ่มขึ้นและง่ายต่อการขจัดคราบ
4.ซักด้วยเครื่อง ต้องใส่เสื้อโปโลไว้ในถุงซักผ้าก่อนเสมอ
ทุกครั้งที่ซักเสื้อโปโลด้วยเครื่องซักผ้า ควรใส่เสื้อโปโลไว้ในถุงซักผ้าก่อนนำไปซัก เพื่อลดการเสียดสีของผ้าในขณะซัก
5.กลับด้านเสื้อโปโลก่อนซัก
กรณีซักด้วยเครื่อง ควรกลับเสื้อโปโลด้านในออกด้านนอกก่อน พร้อมกับใส่เสื้อโปโลไว้ในถุงซักผ้าก่อนนำไปซัก จะช่วยลดการเสียดสีของผ้ากับตัวถังในขณะซัก ช่วยยืดอายุการใช้งาน ผ้าไม่เป็นขุย และสีไม่ซัดจาง
6.ระมัดระวังในการรีด
การรีดผ้าควรใช้ความร้อนต่ำๆ หรือปานกลาง หรือใช้เตารีดไอน้ำ นอกจากนี้ควรใช้น้ำยารีดผ้า จะช่วยให้งานรีดผ้าง่ายขึ้น ไม่เสียเวลานาน ช่วยถนอมเนื้อผ้าได้เป็นอย่างดี และสีไม่ซีดจางลง